บูดาเปสต์ "ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ"
บูดาเปสต์ Budapest นครหลวงของฮังการีที่รวมเอาสามเมืองเข้าด้วยกัน คือเมือง "บูดา" 'โอบูด้า กับเมือง "เปสต์" รวมกันเมื่อปี 1873 บูดาเปสต์นั้นได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงที่มีความงดงามติดอันดับโลก จนได้รับสมญานามว่า “บูดาเปสต์ ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ” ด้วยเพราะทัศนียภาพบนสองฝั่งแม่น้ำดานูบ (Danube) หรือที่คนฮังกาเรียนเรียกขานว่า ดูนา (Duna) เป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านกลางเมือง ทางทิศตะวันตกของแม่น้ำดานูบ มีภูมิประเทศเป็นเนินเขาสลับซับซ้อนเรียกว่าฝั่งบูดา (Buda) เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างสถาปัตยกรรมโบราณและศิลปวัฒนธรรมอันเก่าแก่ ส่วนฝั่งเปสต์ (Pest) มีลักษณะภูมิประเทศเป็นพื้นราบ เป็นย่านธุรกิจการค้าที่สำคัญของเมืองหากได้มาเยือนยังบูดาเปสต์แล้วไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้ชมสิ่งสวยงาม เพราะว่าที่เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังและงดงามให้เที่ยวชมมากมาย
สะพานโซ่ (Chain Bridge) สิ่งก่อสร้างที่เป็นดั่งสัญลักษณ์ของบูดาเปสท์ สะพานเชนแห่งนี้เป็นสะพานถาวรแห่งแรกที่ทอดตัวข้ามแม่น้ำดานูบ สร้างโดยวิศวกรชาวอังกฤษชื่อ William Tierney Clark เหล็กทุกชิ้นล้วนนำมาจากอังกฤษ เป็นสะพานที่มีความสวยงามอย่างมาก มีรูปปั้นแกะสลักสิงโตที่สะพาน
อาคารรัฐสภาฮังการี ถือว่าป็นสัญลักษณ์ของฮังการี อาคารรัฐสภาตั้งโดดเด่นอยู่ริมแม่น้ำดานูบบนฝั่งเปสต์ จัดเป็นอาคารรัฐสภาที่สวยที่สุดในโลก เพราะตัวอาคารมีความสวยงามด้วยสภาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคใต้หลังคาสีแดง อาคารรัฐสภาแห่งนี้เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ.1885 และใช้เวลากว่า 20 ปีกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ ความสูงของอาคาร 96 เมตรเท่ากับมหาวิหารเซนต์สตีเฟน ทั้งนี้เลข 96 มีความหมายกับชาวฮังการี่มากเนื่องจากในปี 896 เป็นปีที่ก่อตั้งราชอาณาจักรฮังการี่
โบสถ์แมทเทียส (Matthias Church) เป็นโบสถ์ใหญ่เก่าแก่อายุ 700 ปี ที่ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โบถส์แห่งนี้ตั้งชื่อตามพระนามของกษัตริย์แมทเทียส กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งฮังการี เมื่ออดีตโบสถ์แห่งนี้เคยเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีเถลิงราชสมบัติของกษัตริย์แห่งฮังการี แต่ในช่วงที่ฮังการีถูกรุกรานจากกองทัพเติร์ก สมบัติส่วนใหญ่ถูกขนออกไป และถูกเปลี่ยนสภาพให้เป็นมัสยิสหลักของเมืองภายใต้การปกครองของตุรกีในปี ค.ศ.1541 และในช่วงสงครามขับไล่กองทัพเติร์ก โบสถ์แมนเทียสได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก กระทั่งเมื่อสงครามสงบลงจึงมีการบูรณะโบสถ์แมทเทียสให้กลับมายิ่งใหญ่และงดงามดังเดิม มีหลังคาสลับสีอันสวยงามตามสไตล์นีโอ-โกธิค ส่วนด้านโบสถ์ประดับประดาไปด้วยภาพเขียนสี และกระจกสีที่บอกเล่าเรื่องราวทางศาสนา
ป้อมชาวประมง (Fishermen’s Bastion หรือ Halaszbastya ในภาษาฮังกาเรี่ยน) ถูกสร้างขึ้นตามแนวเดิมของป้อมปราการเก่าในสไตล์โรมันระหว่าง ค.ศ. 1895 และ ค.ศ. 1902 โดย Frigyes Schulek (ผู้รับผิดชอบการบูรณะโบสถ์คริสตจักร Mathias) ลักษณะเป็นอาคารยาวประมาณ 140 เมตรตั้งขนานไปกับแม่น้ำดานูบ มียอดอาคารหินเจ็ดยอดเป็นสัญลักษณ์ของผู้นำชนเผ่าฮังการี ชื่อของป้อมปราการนี้ได้ตั้งขึ้นเพื่อยกย่องกลุ่มชาวประมงที่อาสาป้องกันข้าศึกรุกรามตามแนวกำแพงเมือง บนป้อมชาวประมงนี้ถือว่าเป็นจุดชมวิวรอบเมืองบูดาที่สวยที่สุด สามารถมองเห็นสะพานเชน และอาคารรัฐสภาฮังการีริมแม่น้ำดานูบที่งดงาม
ตลาดกลาง ตั้งอยู่ในฝั่งของ 'เปสต์' เปิดบริการมาตั้งแต่ปี1897 มีพื้นที่ประมาณหนึ่งหมื่นตารางเมตร ภายในตลาดมีขายตั้งแต่ของสดเช่นผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ของที่ระลึก และร้านอาหารประจำชาติซึ่งตั้งอยู่บริเวณชั้นลอยของตลาด