ย้อนรอย "สวารอฟกี้" คริสตัลงามแห่งยุโรป
 

คริสตัลมีประวัติอันยาวนานตั้งแต่ในครั้งอารยธรรมโบราณ เช่น ใช้เป็นเครื่องประดับศีรษะในราชวงศ์ต่างๆเชื่อว่านำสติปัญญา ความเฉลียวฉลาดมาสู่ตนเองเพื่อใช้ในบ้านเมือง ในอียิปต์ กรีกและโรมันเชื่อว่าแก้วคริสตัลเป็นเครื่องลาง ของขลัง คุ้มครองตัวเองจากสิ่งไม่ดีทั้งหลาย เป็นเครื่องดึงดูดพลังความดี อำนาจศักสิทธิ์ นอกจากนี้ความเชื่อที่คริสตัลสามารถใช้ในการบำบัดโรคยังแพร่หลายมาในปัจจุบันอีกด้วย โดยคริสตัลจะถ่ายทอดพลังงานที่ดีที่ดูดซับมาทำให้จิตใจสงบลง ผ่อนคลาย และปลดปล่อยความเครียด ทำให้เราสามารถรู้สึกถึงธรรมชาติ เช่น ความงามของดอกไม้ เสียงเพลงได้มากขึ้น คริสตัลจึงมีประโยชน์มากกว่าความสวยงามและเป็นที่ต้องการไม่เสื่อมคลายแม้กระทั่งปัจจุบัน เมื่อคริสตัลสะท้อนแสง จะเกิดเป็นแสงระยิบระยับถึงเจ็ดสีด้วยกัน นับเป็นความมหัศจรรย์อย่างหนึ่งและน่าหลงใหลตลอดกาล
 

สวารอฟสกี้ได้เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อกว่า 100  ปีมาแล้ว เป็นธุรกิจครอบครัว โดยชาวออสเตรียนชื่อ 'เดเนียน สวารอฟสกี้' ซึ่งเดินทางจากโบฮีเมีย (สาธารณรัฐเชคในปัจจุบัน) มาตั้งรกรากอยู่ที่เมืองวัตเตนส์ แคว้นทีโรล ในออสเตรีย โดยนำไปเป็นเครื่องประดับปักบนชุดกลางคืนเพื่อความหรูหราสวยงาม ต่อมาได้กลายเป็นผู้นำในแวดวงของเลนส์ของกล้องกล้องจุลทรรศน์ หรือกล้องส่องทางไกล ภายใต้ชื่อ 'Habicht' จากนั้นสวารอฟสกี้ยังโด่งดังไปทั่วยุโรปในด้านโคมไฟระย้าเเชนเดอเลียร์ที่ใช้ประดับในประสาท โรงละคร พิพิธภัณฑ์ต่างๆในยุโรป รวมทั้งผลิตภัณฑ์ของขวัญและของสะสมจากคริสตัล ด้วยศิลปะการออกแบบเฉพาะตัว
 

ในปีพ.ศ. 2538 ได้มีการเปิดพิพิธภัณฑ์คริสตัลสวารอฟสกี้ คริสตัล เวิลด์ (crystal world) เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมงานความเป็นมาและสวยงามของคริสตัล เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่เมืองวัตเตนส์ ประเทศออสเตรีย ตั้งใจให้เป็นสัญลักษณ์ของการฉลองครบรอบ 100 ปีของสวารอฟสกี้ ใช้ทุนสร้างถึง 780 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของสวารอฟสกี้จากที่มุ่งแต่ธุรกิจเพียงอย่างเดียวมาเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น

​


 

​